ดูดไขมัน

ดูดไขมัน คืออะไร ทำอย่างไร มีกี่แบบ อันตรายไหม วันนี้ผมจะพาทุกคนมาหาคำตอบกัน โดยบทความทั้งหมดในหน้านี้ ผม (นพ.ชัยวิทย์ ด่านค้ามาก) เป็นคนเขียนขึ้นมาเองทั้งหมดครับ

• สำหรับท่านที่ ชอบอ่าน สามารถอ่านข้อวามทีละหัวข้อได้เลยครับ
• สำหรับท่านที่ ไม่ชอบอ่าน สามารถดูสรุปสั้นๆได้จากรูปภาพแต่ละรูปเลยครับ

สารบัญ

• ดูดไขมันคืออะไร
• ดูดไขมันขั้นสูง คืออะไร
• ดูดไขมันราคาเท่าไหร่
• ทำไม ดูดไขมัน จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
• ทำบริเวณไหนได้บ้าง
• เลือกคลินิกไหนดี
• ดูดไขมัน ใช้ยาชาหรือยาสลบดี
• ใช้เครื่องยี่ห้ออะไรดี
• การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
• การดูแลหลังดูดไขมัน
• ภาวะปกติที่เจอได้หลังดูดไขมัน
• ดูดไขมันทีเดียวทั้งตัวได้ไหม
• ทำไมต้องดูดไขมันที่ดีว่าคลินิก
• ดูดไขมันที่ดีว่าคลินิก มีแผลตรงไหนบ้าง
• ทำแล้วนานไหม กว่าจะเห็นผล
• สรุป

ดูดไขมัน คือ การเอาไขมันส่วนเกินที่เราไม่ต้องการออกจากร่างกาย โดยไขมันที่สามารถเอาออกได้ จะเป็นไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง การดูดไขมันสามารถทำได้เกือบทุกบริเวณในร่างกายที่มีชั้นไขมัน ไม่ว่าจะเป็น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง น่อง เป็นต้น ในปัจจุบันการดูดไขมัน มีความปลอดภัยสูงมาก ถ้าทำในสถานพยาบาลที่มีความพร้อม และทำโดยแพทย์ที่มีความรู้ มีประสบการณ์สูง

เมื่อแพทย์ทำเคสมาจำนวนมากพอ สิ่งที่จะได้เรียนรู้คือ นอกจากคนไข้ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินออกแล้ว คนไข้แทบทุกคนมักจะมีความกังวลในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังทำ เช่น กลัวเป็นคลื่น กลัวมีแผลเป็น กลัวคนอื่นรู้ว่ามาทำ กลัวไม่ได้ผล เป็นต้น ผมจึงพัฒนาเทคนิคการดูดไขมัน ขั้นสูง เพื่อมุ่งเน้นให้คนไข้ทุกคนมีความสุขและลดความกังวลดังกล่าว

Advanced Liposuction (ดูดไขมัน ขั้นสูง) คือ เทคนิคดังนี้

• เทคนิคซ่อนแผล คือ การเปิดแผลอย่างเหมาะสม และพยายามซ่อนแผลทุกแผลไว้ในร่มผ้า ตามข้อพับต่างๆ ทำให้หลังทำเสร็จ คนไข้ไม่ต้องมารักษา หรือกังวลกับแผลอีกต่อไป
• เน้นดูด 360 องศา หลังทำ เราต้องการให้คนไข้สวยในทุกมุม ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน และมีรูปร่างที่ดูเป็นธรรมชาติ สมจริงมากที่สุด ดังนั้นหากเราดูดไขมันแบบทำเฉพาะส่วน เฉพาะบางจุด สิ่งที่คนไข้จะต้องเจอหลังทำคือ รูปร่างที่ดูไม่สมส่วน ดูปลอม ดูไม่เป็นธรรมชาติ ทำไมต้องดูด 360
• ดูดด้วยเทคนิค Smooth hand & all layer คือการดูดไขมันด้วยความสม่ำเสมอ และดูดในทุกชั้นไขมันเท่าๆกัน เทคนิคดังกล่าว จะทำให้มีโอกาสเป็นคลื่นน้อยมากๆ
• กล้าการันตีผล เนื่องจากการดูดไขมันมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง หลังทำ สิ่งที่คนไข้ควรจะได้รับคือ ความคุ้มค่ากับเงินที่คนไข้จ่าย เราจึงมีการรับประกันผลงาน โดยหากทำแล้วไม่เห็นผลเลย เรายินดีทำใหม่ให้ฟรี

ราคาดูดไขมันของเรา เป็นราคาที่แน่นอน ไม่มีบวกเพิ่ม คิดตามดัชนีมวลกาย (คำนวณจากน้ำหนัก ส่วนสูง) โดยมีวิธีเช็คราคา 2 วิธีด้วยกัน

1. นำค่าดัชนีมวลกาย ไปเช็คราคาได้ที่หน้าเวปไซต์
2. ให้เจ้าหน้าที่ช่วยคำนวณราคาให้ก็ได้นะครับ

เชื่อว่ามนุษย์ทุกคน ก็ต้องการให้ตัวเองมีรูปร่างที่สวย สมบูรณ์แบบ การดูดไขมันจึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างชัดเจน ภายในระยะเวลาสั้นๆ (1-2 เดือน) อีกทั้งมีความปลอดภัยสูงมาก หากทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในปัจจุบันนอกจากการลดสัดส่วนแล้ว การดูดไขมันสามารถทำให้เรามีกล้ามหน้าท้อง ร่อง 11 หรือมีซิคแพค ได้อีกด้วย

ดูดไขมัน ต้นแขน

การดูดไขมันต้นแขน จะทำให้คนไข้มีต้นแขนที่เล็กลงอย่างชัดเจน เมื่อแขนเล็กลงแล้วผลทางอ้อมที่จะได้รับคือ จะทำให้ดูตัวบางลง ตัวเล็กลง โดยอัตโนมัต นอกจากนี้การดูดต้นแขน ถือเป็นบริเวณที่เหมาะจะเริ่มต้น สำหรับคนที่ไม่เคยดูดไขมันมาก่อน เนื่องจากเป็นบริเวณที่ตอนทำมีความเจ็บน้อยที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุด โดยการดูดไขมันต้นแขน ผมแนะนำว่า ต้องดูด 360 องศา

ดูดไขมัน หน้าท้องบนล่าง เอว ห่วงยาง

ในปัจจุบันการดูดไขมันหน้าท้องมี 2 วิธีหลักๆ

1. ดูดเพื่อให้ท้องลีน แบนราบ ซึ่งเป็นการดูดเอาไขมันหน้าท้องบนล่างออกให้ได้มากที่สุด
2. ดูดเพื่อ ปั้นกล้ามท้อง ร่อง 11 เป็นการดูดไขมันในแต่ละส่วนออกไม่เท่ากัน ซึ่งจะทำให้หลังทำคนไข้มีกล้ามหน้าท้องหรือ ร่อง11 ที่มีมิติและแสงเงา สมจริง

ดูดไขมัน ต้นขา

ปัญหาใหญ่ของผู้หญิงเลยก็ว่าได้ เพราะไขมันที่สะสมอยู่ที่บริเวณต้นขา ถือเป็นไขมันที่เอาออกยากที่สุดในร่างกาย เพราะเป็นไขมันที่ร่างกายจะดึงมาใช้เป็นพลังงานหลังสุด คุณผู้หญิงหลายๆท่านจึงเคยเจอปัญหา ออกกำลังกายเท่าไหร่ ต้นขาก็ไม่เล็กลงเลย โดยการดูดไขมันต้นขา ผมแนะนำว่า ต้องดูด 360 องศา เช่นเดียวกับต้นแขนครับ

ดูดไขมัน กรอบหน้า เหนียง

หากท่านเป็นคนที่มีไขมันบริเวณกรอบหน้าและเหนียง โดยที่ไขมันเป็นไขมันปริมาณปานกลางขึ้นไป หรือ ไซส์ M ขึ้นไป ผมแนะนำให้ใช้วิธีการดูดไขมันออกไปเลย เพราะการฉีดเมโสสลายไขมัน จะแทบไม่ได้ผลเลย และเสียค่าใช้จ่ายเยอะพอสมควร ไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

ผมแนะนำให้พิจารณาจากปัจจัยตามนี้เป็นหลัก มากกว่าดูที่ราคาถูก

• รูปรีวิว ต้องเป็นรีวิวทางการแพทย์ หรือ รีวิวที่น่าเชื่อถือ
• มาตรฐานห้องผ่าตัด ปัจจุบันคลินิกหันมาไลฟ์สดกันเยอะ พยายามใช้ประโยชน์ตรงนี้ ในการสังเกตห้องผ่าตัดของเค้านะครับ ว่ามีอุปกรณ์ครบถ้วน ได้มาตรฐานหรือไม่
• ประสบการณ์แพทย์ ประสบการณ์แพทย์เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะการดูดไขมัน ไม่ใช่แค่มีความรู้แล้วจะทำได้ดี แต่เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะสูงมาก
• ราคาต้องคุ้มค่า ถ้าทำราคาถูกแล้วไม่ได้ผล หรือต้องมาแก้ทีหลัง แบบนี้เท่ากับเราต้องจ่ายแพงกว่าเดิมครับ แต่ถ้าทำคลินิกราคาสมเหตุสมผลแล้วได้ผลดี ไม่ต้องมาแก้ไข แบบนี้ดีกว่าเยอะครับ

ในปัจจุบัน การใช้ยาชา หรือยาสลบ มีความปลอดภัยสูงทั้งคู่ โดยแต่ละแบบมีข้อดี และข้อเสียต่างกัน ตามรูป

• การใช้ยาชา คือ การที่แพทย์ใช้น้ำเกลือผสมยาชา แล้วฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการจะดูดไขมัน หรือทางการแพทย์เรียกว่า วิธี Tumescent liposuction
• ส่วนการใช้ยาสลบ คือ การที่วิสัญญีแพทย์ฉีดยาสลบเข้าไปก่อนเพื่อทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ หลังจากนั้นแพทย์ผู้ผ่าตัดจะใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีดเข้าไปเช่นเดียวกับวิธีการแรก

ส่วนเราเหมาะที่จะทำวิธีไหน มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ซึ่งสามารถอ่านแบบละเอียดได้ที่ ………

เครื่องที่ใช้ในการดูดไขมันมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ เลเซอร์ คลื่นวิทยุ พลังงานกล พลังงานน้ำ ในความเห็นผม ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาไม่ได้อยู่ที่เครื่องที่ใช้เป็นหลัก แต่ควรดู ประสบการณ์แพทย์ รีวิว เป็นหลัก เพราะสิ่งดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้ว่าผลงานจะออกมาดีหรือไม่ดี

1. กรณีทำแบบยาชา ให้ทานอาหารมาได้ตามปกติ กรณีทำแบบดมยา ให้งดน้ำอาหารก่อนทำ 8 ชม.
2. งดอาหารเสริม วิตามิน 5-7 วันก่อนทำ
3. กรณีมีการทาสีเล็บ แนะนำให้ลบสีเล็บทั้งหมด เนื่องจากจะมีการติดอุปกรณ์จับออกซิเจนในเลือด
4. นอนหลับให้เพียงพอ ทำใจให้สบาย
5. กรณีทำแบบยาสลบ ต้องมีญาติหรือเพื่อนมารับ (ไม่สามารถขับรถกลับเองได้)

1. ทำแผลทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ตอนเย็นหลังอาบน้ำ (ห้ามให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม) แนะนำให้ติดพลาสเตอร์กันน้ำตอนอาบน้ำ
2. ตัดไหม 7 วันหลังดูดไขมัน
3. ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชม. ช่วง 1 เดือนแรก หลังจากนั้นใส่ให้ได้ 8-12 ชม. ใส่ต่อเนื่องจนครบ 1 เดือนครึ่ง
4. รับประทานยาฆ่าเชื้อตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
5. งดอาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
6. งดของหมักดอง ของดิบและงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
7. งดออกกำลังกาย อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์

ดูดไขมันเป็นการผ่าตัดเล็กชนิดนึง หลังทำจะมีภาวะต่างๆที่เจอได้เป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งภาวะดังกล่าว ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และจะค่อยๆฟื้นตัว หรือหายไปได้เอง โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ภาวะที่กล่าวมาก็เช่น ปวดระบม บวมช้ำ เป็นก้อนไตแข็งใต้ชั้นผิวหนัง สีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นต้น

• กรณีคนไข้เป็น คนตัวเล็ก (size S/M) มีความเป็นไปได้ที่จะดูดไขมันทั้งตัวได้ในครั้งเดียว เพราะปริมาณไขมันมีน้อย ปริมาณการใช้ยาชาน้อย ทำให้หลังทำมีความเสี่ยงน้อย
• กรณีคนไข้ที่เป็น คนตัวใหญ่ (size L) ขึ้นไป แนะนำให้แบ่งการดูดออกเป็น 2-3 ครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และผลงานหลังทำจะออกมาดีกว่าการฝืนดูดในครั้งเดียว

1. แพทย์มีประสบการณ์ 8 ปี ทำเคสมามากกว่า 2,000 เคส
2. ใน 5 ปีหลัง ไม่มีเคสแก้เลย แม้แต่เคสเดียว
3. ใช้เทคนิค ดูดไขมัน ขั้นสูง
4. ห้องผ่าตัดมาตรฐาน อุปกรณ์ครบครัน
5. ราคาแน่นอน ตรงปก ไม่บวกเพิ่ม
6. มีบริการ after care ฟรี
7. รีวิวเพียบ และเป็นรีวิวที่ได้มาตรฐาน

ทุกเคสที่ดูดไขมันที่เรา จะทำโดยแพทย์คนเดียวกันเสมอ คือ นพ.ชัยวิทย์ ด่านค้ามาก (หมอท๊อป) และ พญ.ณธิยา เทือใหม่ (หมอบิ๋ม) ดังนั้นคนไข้สามารถมั่นใจได้เลยว่า ฝีมือของแพทย์ และผลลัพธ์หลังทำจะใกล้เคียงกับรูปรีวิวของทางคลินิกแน่นอน

เมื่อแพทย์มีประสบการณ์มาก ผ่านการทำเคสมาเยอะ จะทำให้ผลงานออกมาดี และมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาด หรือภาวะแทรกซ้อนน้อยมากๆ เพราะการดูดไขมันเป็นทักษะ ไม่สามารถอาศัยความรู้ทางการแพทย์แค่อย่างเดียวได้ ในการทำออกมาให้ดี

ห้องผ่าตัดของทางคลินิก เป็นห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน มีอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เตียงผ่าตัด โคมไฟผ่าตัด เครื่องดูดไขมัน อุปกรณ์ติดตามสัญญาณชีพ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ให้สารน้ำอย่างแม่นยำ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

ปัญหาที่มักจะเจอคนไข้บ่นเสมอเป็นอันดับต้นๆคือ คลินิกอื่นๆ สอบถามราคาแล้วแจ้งราคาอีกราคานึง พอไปถึงคลินิกกำลังจะทำ แจ้งราคาที่แพงกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมกำชับกับน้องๆพนักงานเสมอว่า ต้องไม่เกิดขึ้นกับคลินิกเรา ต้องมีการแจ้งราคาที่ชัดเจนกับคนไข้ และไม่มีการบวกเพิ่มใดๆ อีกทั้งผมได้จัดทำระบบต่างๆเพื่อให้คนไข้รู้ราคาที่แน่นอนก่อนจองคิว เช่น การประกาศราคาที่หน้าเวปไซด์ไปเลย หรือการสร้างโปรแกรมคำนวณราคาได้เองที่หน้าเวปไซด์

คือ บริการที่มีให้ฟรีสำหรับเคสที่ดูดไขมันกับเรา ไม่ว่าจะเป็นนวดกระชับ (RF) ยาก่อน-หลังดูดไขมัน อุปกรณ์ดูแลแผล บริการตัดไหม บริการติดต่อผมได้โดยตรง (เบอร์ส่วนตัว) การติดตามอาการโดยแพทย์ เป็นต้น

ผมย้ำเสมอว่าการจะเลือกคลินิกดูดไขมัน ให้ดูที่รีวิวเป็นหลัก เพราะรีวิวเป็นสิ่งที่จะบอกว่าแพทย์ท่านนั้นมีฝีมือเป็นอย่างไรบ้าง และคลินิกนั้นมีเคสเยอะหรือน้อยแค่ไหน แต่รีวิวที่นำมาประกอบการตัดสินใจ ต้องเป็นรีวิวที่ได้มาตรฐาน มีหลักการในการถ่ายรูป และลงรูป

ผมให้ความสำคัญกับจุดลงแผลค่อนข้างมาก เพราะหลังจากดูดไขมันไปแล้ว อีกสิ่งนึงที่มักจะทำให้เกิดความกังวลใจกับคนไข้เสมอ คือ เรื่องแผล ดังนั้น ผมจึงคิดค้นวิธีการลงแผล โดยมีหลักการดังนี้

• ลงแผลเฉพาะที่จำเป็น ไม่ลงแผลหากไม่จำเป็นจริงๆ
• พยายามซ่อนแผลให้อยู่ในร่มผ้า หรือตามรอยพับร่างกายเสมอ จะไม่มีการลงแผลกลางแขน กลางขาอย่างแน่นอน
• ลงแผลให้มีความกว้างพอดี ไม่เล็กเกินไป ไม่ใหญ่เกินไป (การลงแผลเล็กไปทำให้เกิดการเสียดสี ทำให้แผลไม่สวย)
• เย็บแผลเสมอ เพื่อให้แผลสวยและเล็กที่สุด

โดยจุดลงแผลสามารถดูได้ที่รูปด้านล่าง

หลังจากดูดไขมัน ไขมันจะหายไปในทันทีหลังดูดเสร็จ แต่ทุกการผ่าตัดศัลยกรรม ร่างกายจะต้องมีภาวะการบวมช้ำก่อนเป็นปกติ ซึ่งมักจะบวมช้ำเยอะที่สุดในวันที่ 3-4 หลังทำไป และหลังจากนั้นจะค่อยๆ ยุบบวม และหายฟกช้ำลงเรื่อยๆ ผมขอสรุปเกี่ยวกับการเห็นผลไว้ดังนี้

• เริ่มเห็นผลที่ 2 สัปดาห์
• เห็นผลชัดเจน 50-60% ที่ 1 เดือน
• เห็นผลชัดเจน 70-80% ที่ 2 เดือน
• เห็นผลเต็มที่ 100% ที่ 6 เดือน

ดังนั้นหากคนไข้ได้รับการดูดไขมันมาแล้วได้ผลจริงๆ 1 เดือนหลังทำสัดส่วนต้องเล็กลงแล้วครับ

การดูดไขมัน ถือเป็นวิธีการลดสัดส่วนที่ได้ผลดีที่สุดในปัจจุบัน คือ ทำให้สัดส่วนลดลงอย่างชัดเจน ในเวลาสั้นๆ ภายใน 1-2 เดือน มีความปลอดภัยสูงมากหากทำในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้เราได้พัฒนาเทคนิคดูดไขมันขั้นสูง (advanced liposuction) ขึ้นมา เพื่อลดปัญหาและข้อเสียต่างๆ ของหัตถการดูดไขมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ แผลเป็น ผิวเป็นคลื่น เป็นต้น

ผมจึงให้ความมั่นใจกับคนไข้ทุกคนได้ว่า หากมาดูดไขมันที่ดีว่าคลินิก ท่านน่าจะได้รับความประทับใจแน่นอนครับ